ปัจจุบันนี้ประชากรไทยมีอายุยืนยาวขึ้นทำให้ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุกันแล้วนะคะ วันนี้อยากชวนคุณลุงคุณป้าที่เตรียมตัววางแผนหลังเกษียณ โดยเฉพาะคนโสดที่กำลังนึกหวั่นเหมือนกันว่าบ้านหลังเดิมอาจจะไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลาย บ้านช่องหลังใหญ่และการขึ้นบันไดก็ไม่สะดวกอีกต่อไป เพราะเมื่อแก่ตัวไปก็คงมีกำลังลดลง ยิ่งหากเจ็บป่วยก็ต้องการคนดูแลมากขึ้น
ทำให้ทุกวันนี้คุณลุงคุณป้าหลายๆ ท่านกำลังมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ให้กับตัวเองในวัยหลังเกษียณ ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบบ้านพักคนชรา ที่มีพยาบาลดูแลใกล้ชิด 24 ชั่วโมง หรือจะเลือกเป็นบ้าน-คอนโดผู้สูงอายุที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้ชีวิตของชาวสูงวัยให้เดินเหิน ทำกิจกรรมได้คล่องตัวยิ่งขึ้น
ถ้าอย่างนั้นวันนี้เรามาหาคำตอบว่า “หากอยากจะใช้ชีวิตในบ้านพักคนชรา หรือคอนโดผู้สูงอายุ ต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่” หรือ“หากเป็นคุณลุงคุณป้าที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องการพยาบาลดูแล 24 ชั่วโมง ต้องเลือกอยู่โครงการแบบไหน? ไปดูกันเลยค่ะ
ก่อนอื่นที่จะไปดูรายละเอียดเรื่องเงิน อยากให้มาดูกันก่อนว่าคุณลุงคุณป้าแต่ละท่าน เหมาะกับโครงการแบบไหนบ้าง เพื่อให้เลือกที่อยู่ได้เหมาะที่สุด ซึ่งสำหรับวัย 50 หยกๆ 60 หย่อนๆ แล้วมีปัจจัย 2 ส่วนหลักๆ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ
1. สภาพร่างกาย : คุณลุงคุณป้าต้องดูจากสุขภาพก่อนว่าเป็นกลุ่มที่สามารถดูแลตัวองได้หรือต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
- กลุ่มที่สามารถดูแลตัวเองได้ อาจจะมีการไปหาคุณหมอบ้าง ทำกายภาพบ้างแต่ไม่ถึงกับต้องการคนดูแลตลอดเวลา สามารถเลือกอยู่บ้าน-คอนโดผู้สูงอายุได้ เพราะที่เหล่านั้นมักออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการออกแบบโดยใช้หลัก Universal Design รองรับการใช้งานคนทุกกลุ่มรวมถึงผู้สูงอายุ เช่น ออกแบบให้ทางเดินมีความกว้างพิเศษสามารถใช้งานวีลแชร์หรือรถเข็นได้ มีราวจับ ใช้ทางลาดแทนบันได วัสดุพื้นชนิดไม่ลื่น เป็นต้น
- กลุ่มที่ต้องการผู้ดูแลใกล้ชิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีภาวะติดเตียง กลุ่มนี้แนะนำให้เลือกบ้านพักคนชรา เพราะมักจะมีพยาบาลมืออาชีพดูแล 24 ชั่วโมง มีเครื่องมือ อุปกรณ์การแพทย์ค่อนข้างครบครัน มีอาหารที่เหมาะสม จะดูแลผู้สูงอายุกลุ่มนี้ได้ดีกว่า
2. เงินเก็บ : อีกเรื่องที่ต้องเช็คต่อจากสุขภาพร่างกาย ก็คือสุขภาพการเงิน เพราะเมื่อถึงวัยเกษียณแล้วความสามารถในการกู้เงินมาซื้อบ้าน-คอนโดใหม่จะน้อยลง ลองเช็คดูว่าเรามีเงินก้อนหรือมีลูกหลานกู้ร่วมด้วยไหม หรือได้เป็นบำนาญแบบรายเดือน เพราะแต่ละโครงการก็มีราคา รูปแบบการให้บริการต่างกัน อยู่ที่งบประมาณของเราค่ะ
- กลุ่มที่มีเงินก้อน หรือมีลูกหลานกู้ร่วมได้ และมีสุขภาพที่ดีช่วยเหลือตัวเองได้ จะเหมาะกับการเลือกอยู่อาศัยในบ้าน-คอนโดผุ้สูงอายุ เพราะจะได้อิสระในการใช้ชีวิตมากกว่า ในขณะที่ยังได้รับการดูแลขั้นพื้นฐาน มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก เรียกใช้งานได้ในเวลาฉุกเฉิน ซึ่งก็มีให้เลือกหลายรูปแบบเช่น แบบขายสิทธิการอยู่อาศัย 30 ปี, ขายสิทธิการอยู่อาศัยตลอดชีวิต จ่ายครั้งเดียวก็อยู่ไปยาวๆ ได้เลย
- กลุ่มที่มีเงินได้รายเดือน เช่น เงินบำนาญ เงินปันผล กลุ่มนี้หากไม่มีเงินก้อนก็จะกู้ซื้อบ้าน-คอนโดผู้สูงอายุได้ยาก เพราะอย่างที่บอกไปว่าในวัยเกษียณแล้ว ธนาคารจะไม่ปล่อยกู้ให้ง่ายๆ เหมือนเดิม ทางเลือกที่เหมาะสมก็จะเป็นบ้านพักคนชรา ที่คิดค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน ซึ่งจะรวมค่าดูแลทำความสะอาด ค่าอาหาร ค่าพยาบาลไว้หมดแล้ว
Credit : https://thinkofliving.com/